Difference between revisions of "Hdrive b spec profender monotube 20 profender k"

From Camera Database
Jump to: navigation, search
(Created page with "hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา แล้วเพราะอะไรจำเป็นต้องใช้สปริงแข...")
 
m
 
Line 1: Line 1:
hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา แล้วเพราะอะไรจำเป็นต้องใช้สปริงแข็ง?การใช้สปริงที่มีค่า k มากมายๆนั้น มีผลโดยตรงต่ [http://daf.csulb.edu/cgi-bin/rd.pl?u=https://www.repowerthailand.com/ http://daf.csulb.edu/cgi-bin/rd.pl?u=https://www.repowerthailand.com/] ุม รวมถึงการโต้ตอบของตัวรถยนต์ และสิ่งที่ได้เปรียบที่ท่านผู้อ่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือเหตุผลที่ว่า...เพราะอะไรรถแข่งจำพวกเซอร์กิต จึงเซ็ทอัพสปริงให้มีค่า k สูงๆ<br />1. ลดอาการโคลงตัวของรถยนต์ (Reduce Body Roll)ในจังหวะเข้าโค้ง เป็นช่วงที่ตัวรถยนต์มีการระบายน้ำหนักโค้ง (Weight Transfer) ไปที่ ‘ยางคู่นอก’ ซึ่งถ้าว่ายางคู่นอก ได้รับภาระหน้าที่เยอะเกินไป ก็จะไม่อาจจะสร้างแรงยึดเกาะได้ (มีการสลิป) และส่งผลให้รถเสียการควบคุมถ้าหากท่านผู้อ่านท่านใดที่ชอบ hdrive b spec [https://intensedebate.com/people/pinebed54 profender monotube 2.0 ดีไหม] profender ราคา มองรถแข่ง คงเคยได้เห็นจังหวะรถแข่งพวกนี้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ในจังหวะเข้าโค้งนั้น บอดี้ของรถแข่งจะมีการโคลงเคลงน้อยมาก (Body Roll น้อยมากๆ) ซึ่งมีต้นเหตุจากการเซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k สูงๆทำให้ตัวรถยนต์มีลักษณะอาการโคลงลดน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดจำนวนการถ่ายเทน้ำหนักระหว่างเข้า ทำให้ยางทั้งยัง 4 เส้นได้รับภาระหน้าที่ในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถสร้างแรงยึดเกาะในขณะเข้าโค้งได้เพิ่มขึ้น<br />2. ทำให้รถยนต์เตี้ยลง = ลดตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ (Lower Ride Height)เมื่อเราอยากทำให้รถยนต์เตี้ยลงแล้ว พวกเราจะเป็นที่จะต้องใส่สปริงที่มีความแข็งแรงที่มากขึ้น (ค่า k สูงมากขึ้น) เนื่องจากถ้าว่าพวกเราใส่สปริงที่มีค่า k น้อยๆซึ่งมีระยะยุบตัวที่มากกว่า จะก่อให้ล้อและก็ยางมีระยะเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น จวบจนกระทั่งสามารถ ‘กระเด้ง’ ขึ้นมาขูดซุ้มล้อ หรือในกรณีที่ห่วยที่สุดก็คือว่า สปริงที่มีค่า k น้อยมากๆกระทั่งไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวรถยนต์ได้ มีโอกาสทำให้ตัวรถลงไปชนกับพื้นแทร็คได้ในจังหวะกระโจนตะกายเอเป็กซ์ในสนามแข่งในจังหวะบั๊มพ์ สปริงต้องแข็งเพียงพอที่จะไม่ทำให้ตัวรถยุบลงไปจนกระทั่ง hdrive b spec [http://wiki.soippo.edu.ua/index.php?title=Hdrive-b-spec-profender-monotube-20--profender---k---l profender monotube 2.0 ดีไหม] profender ราคา ชนกับพื้นแทร็คปัญหาต่อมาก็คือว่า...รถเตี้ยลงแล้ว...มันดีอย่างไร?โดยปกติแล้ว สำหรับรถยนต์ซุปเปอร์คาร์และก็รถแข่งนั้น จะถูกออกแบบมาให้เตี้ยที่สุดเท่าที่จะเตี้ยได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้จุดศูนย์ถ่วง (จุด C.G.) อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเองครับผม เมื่อจุดศูนย์ถ่วงต่ำแล้ว จะนำมาซึ่งการทำให้การตอบสนองของช่วงล่างแม่นยำขึ้น เป็นผลให้มีความสามารถการควบคุมดียิ่งขึ้นนั่นเอง<br />3. เพื่อรักษาแอโรไดนามิคส์สำหรับยอดเยี่ยมรถแข่งอย่าง F1 รวมไปถึงรถแข่งประเภท GT นอกเหนือจากการที่จะสามารถสร้าง ‘Mechanical Grip’ (แมคคานิคคอล) ได้อย่างมากมายแล้ว รถแข่งพวกนี้ จำเป็นต้องอาศัย ‘Aero Grip’ (แอโร-กริป) เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงอากาศพลศาสตร์เยอะที่สุดและเพื่อสร้าง ‘แอโร-กริป’ ให้ได้มากที่สุด รถแข่งพวกนี้ จะถูกวางแบบมาที่ความสูงใด-ความสูงหนึ่งแค่นั้น นั่นนับได้ว่า [http://www.educacional.com.br/recursos/redirect.asp?url=https://www.repowerthailand.com/ hdrive b spec] profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ถ้าเกิดตัวรถขยับลดลงเพียงแค่ 1 เซนติเมตร จากความสูงที่ได้ออกแบบแล้วก็คำนวณไว้ จะนำมาซึ่งการทำให้อากาศพลศาสตร์กำเนิดความปั่นป่วนอย่างฉับพลัน และเปลี่ยนเป็นผลกระทบในทางร้ายกับตัวรถทันที ดังนั้น เพื่อเป็นการจำกัดความสูงของตัวรถยนต์ รถแข่งเหล่านี้ ก็เลยได้เซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k ที่แข็งมากมายๆเพื่อให้มีระยะยุบต่ำที่สุด เท่าที่จะน้อยได้นั่นเองนะครับ<br />บทสรุปสำหรับรถยนต์นั่งส่วนตัวโดยทั่วไป ที่ต้องวิ่งใช้งานบนถนนหนทางธรรมดาแล้ว จะมีการเซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k ที่ไม่สูงมากมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ ทั้งยังช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการความสบายในการขับรถ (รถยนต์บ้าน ตอนล่างไม่แข็งกระด้าง ไม่กระดอน-กระเด้ง)รวมทั้งแม้ว่า สปริงที่มีค่า k น้อย จะสามารถสร้าง ‘Mechanical Grip’ ได้มากกว่า แต่สำหรับรถแข่งชนิดเซอร์กิตนั้น เลือกที่จะเซ็ทอัพสปริงแบบแข็งเพื่อที่จะเพิ่มสมรรถนะการควบคุม และก็การโต้ตอบของตัว ตลอดจนสร้างความเป็นต่อในเชิงอากาศพลศาสตร์สปริงแบบ DUAL RATE (มีค่า k สองค่าในม้วนเดียว)สามารถให้ได้อีกทั้งความนุ่มสบายและความสามารถการขับขี่สำหรับบทเรื่อง พื้นฐานการเซ็ทอัพช่วงล่าง (ในตอนที่ 4) ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อย และท่านคนอ่านสามารถติดตามบทความต่อๆไป ได้โดยตรงที่ แฟนเพจ Joh’s Autolife ได้เลยครับผม<br /> “โช้คอัพ” เป็นเครื่องใช้ไม้สอยสำคัญที่ช่วยรองรับแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือนของรถ คอยถ่วงการเคลื่อนที่ขึ้นลงของช่วงล่าง-ตัวถัง ช่วยการเลี้ยงตัวของรถยนต์ แล้วก็ดูดซึมการเขย่าของสปริงทำให้การรถยนต์กระดอน ขึ้น-ลง ของรถยนต์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ลองดูกันว่าโช้คอัพที่คุณใช้เป็นแบบไหน รวมทั้งอาการรถอย่างไรถึงจะต้องแปลงโช้คอัพ<br /> โช้คอัพมีอยู่ 2 ระบบ<br /> 1.โช้คอัพระบบ “น้ำมัน”เป็นการทำงานด้วยระบบไฮดคอยลิค ตอนที่ทำงานน้ำมันไฮดรอคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ มีการควบคุมวาล์วอยู่ 3 ระดับ โดยทำงานของวาล์วจังหวะแรก BLEED จะมีผลต่อการขับขี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอัตราความเร็วต่ำ ส่วนวาล์วควบคุมน้ำมันระดับที่สอง BLOW OFF จะควบคุมสมรรถนะสำหรับเพื่อการขับขี่ในอัตราความเร็วปกติ แล้วก็วาล์วควบคุมน้ำมันระดับที่สาม ORIFICE วาล์วจะทำงานในขณะแกนโช้คเคลื่อนตัวตอนที่รถใช้ความเร็วสูง<br /> 2.โช้คอัพระบบ “แก๊ส”<br /> โช้คอัพก๊าซแรงดันต่ำ (LOW-PRESSURE GAS SHOCK ABSORBER) โช้คอัพแก๊สอย่างนี้ จะมีลักษณะราวกับโช้คอัพไฮดรอคอยลิคธรรมดา แม้กระนั้นมีก๊าซไนโตรเจน (NITROGEN GAS) ใส่เข้าไปส่วนบนของห้องอาบน้ำมันสำรองแรงดันราวๆ 142 - 213 ปอนด์/ ตารางนิ้ว<br /> โช้คอัพแก๊สแรงดันสูง (HI-PRESSURE GAS SHOCK ABSORBER) มีลักษณะแตกต่างจากโช้คอัพแรงกดดันต่ำคือ โครงสร้างข้างในตัวของโช้คอัพจะมีน้ำมันเพียงแค่ห้องเดียวไม่มีส้วมมันสำรอง ภายในกระบอกสูบจะบรรจุน้ำมันไฮดรอลิคไว้ด้านบน hdrive b spec [http://pandora.nla.gov.au/external.html?link=https://www.repowerthailand.com/ profender monotube 2.0 ดีไหม] profender ราคา และจะอัดแก๊สไนโตรเจนไว้ข้างล่าง โดยประมาณ 284-427 ปอนด์/ ตารางนิ้ว<br />โช๊คอัพ นับเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของรถยนต์ เพราะจะช่วยรองรับ ซับแรงชน รวมทั้งช่วยลดแรงสะเทือนของรถยนต์ จากการขับขี่ในทุกภาวะถนนหนทาง วันนี้เราก็เลยนำรายละเอียด และก็ประเภทของ โช้คอัพ มาให้ชมกันให้รอบคอบ<br />โช๊คอัพระบบน้ำมัน จะทำงานด้วยระบบไฮดคอยลิค ซึ่งเวลาที่โช๊คอัพดำเนินงาน น้ำมันไฮดรอคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ จึงทำให้มีการเกิดฟองอากาศขึ้นข้างในน้ำมันไฮดรอลิค แต่ว่าถ้าหากฟองอากาศกำเนิดแตกขึ้น จะก่อให้โช้คอัพเกิดการ hdrive b spec [https://historyhub.history.gov/external-link.jspa?url=https://www.repowerthailand.com/ profender monotube 2.0 ดีไหม] profender ราคา ขาดช่วงการทำงานในช่วงสั้นๆซึ่งส่งผลให้รถยนต์เสียอาการได้ในเขตความเร็วสูง
+
hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา แล้วเพราะเหตุใดต้องใช้สปริงแข็ง?การใช้สปริงที่มีค่า k มากๆนั้น มีผลโดยตรงต่ [https://www.folkd.com/submit/www.repowerthailand.com// https://www.folkd.com/submit/www.repowerthailand.com//] ุม รวมถึงการตอบสนองของตัวรถ และข้อดีที่ท่านผู้อ่านจะได้อ่านตั้งแต่นี้ต่อไป คือเหตุผลที่ว่า...ทำไมรถแข่งจำพวกเซอร์กิต ก็เลยเซ็ทอัพสปริงให้มีค่า k สูงๆ<br />1. ลดอาการโคลงเคลงตัวของรถ (Reduce Body Roll)ในจังหวะเข้าโค้ง เป็นช่วงที่ตัวรถมีการถ่ายเทน้ำหนักโค้ง (Weight Transfer) ไปที่ ‘ยางคู่นอก’ ซึ่งถ้าหากว่ายางคู่นอก ได้รับภาระหน้าที่มากเกินไป ก็จะไม่สามารถสร้างแรงยึดเกาะได้ (มีการสลิป) รวมทั้งทำให้รถเสียการควบคุมถ้าเกิดท่านคนอ่านท่านใดที่ชอบ hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา มองรถแข่ง คงเคยได้เห็นจังหวะรถแข่งเหล่านี้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ในจังหวะเข้าโค้งนั้น บอดี้ของรถแข่งจะมีการโยกน้อยมาก (Body Roll น้อยมากๆ) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k สูงๆทำให้ตัวรถมีลักษณะอาการโคลงลดลง ซึ่งจะช่วยลดจำนวนการถ่ายเทน้ำหนักระหว่างเข้า ทำให้ยางอีกทั้ง 4 เส้นได้รับภาระหน้าที่ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถสร้างแรงยึดเกาะในขณะเข้าโค้งได้เพิ่มขึ้น<br />2. ทำให้รถยนต์เตี้ยลง = ลดตำแหน่งจุดศูนย์กลางของความถ่วงของตัวรถยนต์ (Lower Ride Height)เมื่อเราต้องการทำให้รถยนต์เตี้ยลงแล้ว เราจะเป็นที่จะจำต้องใส่สปริงที่มีความแข็งที่เพิ่มขึ้น (ค่า k สูงมากขึ้น) เนื่องจากว่าถ้าว่าเราใส่สปริงที่มีค่า k น้อยๆซึ่งมีระยะยุบที่มากกว่า จะมีผลให้ล้อแล้วก็ยางมีระยะเขยื้อนที่เพิ่มขึ้น จวบจนกระทั่งสามารถ ‘กระเด้ง’ ขึ้นมาขูดซุ้มล้อ หรือในเรื่องที่แย่ที่สุดก็คือว่า สปริงที่มีค่า k น้อยมากๆกระทั่งไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวรถยนต์ได้ มีโอกาสทำให้ตัวรถลงไปชนกับพื้นแทร็คได้ในจังหวะกระโดดไต่เอเป็กซ์ในสนามสำหรับเพื่อการแข่งขันในจังหวะบั๊มพ์ สปริงจำเป็นต้องแข็งพอเพียงที่จะไม่ทำให้ตัวรถยนต์ยุบลงไปกระทั่ง [https://getpocket.com/@sinkforce5 hdrive b spec] profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ชนกับพื้นแทร็คคำถามต่อมาก็คือว่า...รถยนต์เตี้ยลงแล้ว...มันดียังไง?โดยธรรมดาแล้ว สำหรับรถซุปเปอร์คาร์และรถแข่งนั้น จะถูกวางแบบมาให้เตี้ยที่สุดเท่าที่จะเตี้ยได้ โดยมีจุดหมายเพื่อทำให้จุดศูนย์กลางของความถ่วง (จุด C.G.) อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเองครับผม เมื่อจุดศูนย์กลางของความถ่วงต่ำแล้ว จะนำมาซึ่งการทำให้การตอบสนองของตอนล่างถูกต้องขึ้น ได้ผลสำเร็จให้มีสมรรถนะการควบคุมดีขึ้นนั่นเอง<br />3. เพื่อรักษาแอโรไดนามิคส์สำหรับสุดยอดรถแข่งอย่าง F1 รวมถึงรถแข่งจำพวก GT นอกเหนือจากที่จะสามารถสร้าง ‘Mechanical Grip’ (แมคคานิคคอล) ได้อย่างมหาศาลแล้ว รถแข่งพวกนี้ จำเป็นต้องอาศัย ‘Aero Grip’ (แอโร-กริป) เพื่อสร้างความเป็นต่อเชิงอากาศพลศาสตร์สูงที่สุดแล้วก็เพื่อที่จะสร้าง ‘แอโร-กริป’ ให้ได้มากที่สุด รถแข่งเหล่านี้ จะถูกออกแบบมาที่ความสูงใด-ความสูงหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่า [https://flipboard.com/@humorkendo9 hdrive b spec] profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ถ้าหากตัวรถขยับลดลงเพียง 1 เซนติเมตร จากความสูงที่ได้วางแบบและก็คำนวณไว้ จะทำให้อากาศพลศาสตร์เกิดความระส่ำระสายทันทีทันใด และก็เปลี่ยนเป็นผลกระทบในด้านที่เสียหายกับตัวรถยนต์โดยทันที ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการให้ความหมายสูงของตัวรถ รถแข่งเหล่านี้ จึงได้เซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k ที่แข็งมากๆเพื่อมีระยะยุบต่ำที่สุด เท่าที่จะน้อยได้นั่นเองครับผม<br />ผลสรุปสำหรับรถยนต์นั่งส่วนตัวโดยธรรมดา ที่จำต้องวิ่งใช้งานบนถนนธรรมดาแล้ว จะมีการเซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k ที่ไม่สูงมากมาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ ทั้งยังช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการความสบายสำหรับในการขับขี่ (รถยนต์บ้าน ช่วงล่างไม่กระด้าง ไม่กระดอน-กระเด้ง)แล้วก็แม้ว่า สปริงที่มีค่า k น้อย จะสามารถสร้าง ‘Mechanical Grip’ ได้มากกว่า แต่สำหรับรถแข่งชนิดเซอร์กิตนั้น เลือกที่จะเซ็ทอัพสปริงแบบแข็งๆเพื่อจะเพิ่มความสามารถการควบคุม และการตอบสนองของตัว ตลอดจนสร้างความได้เปรียบในเชิงอากาศพลศาสตร์สปริงแบบ DUAL RATE (มีค่า k สองค่าในขดเดียว)สามารถให้ได้ทั้งความนิ่มสบายและก็สมรรถนะการขับขี่สำหรับบทเรื่อง รากฐานการเซ็ทอัพตอนล่าง (ในระหว่างที่ 4) ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับวิชาความรู้ไม่มากก็น้อย และท่านคนอ่านสามารถติดตามบทความต่อๆไป ได้โดยตรงที่ แฟนเพจ Joh’s Autolife ได้เลยครับ<br /> “โช้คอัพ” เป็นเครื่องใช้ไม้สอยสำคัญที่ช่วยรองรับแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือนของรถ รอถ่วงการเคลื่อนที่ขึ้นลงของช่วงล่าง-ตัวถัง ช่วยการทรงตัวของรถยนต์ แล้วก็ดูดซับการกระตุกของสปริงทำให้การรถยนต์กระเด้ง ขึ้น-ลง ของรถยนต์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ลองมามองกันว่าโช้คอัพที่คุณใช้เป็นแบบไหน และอาการรถยนต์ยังไงถึงจำต้องเปลี่ยนโช้คอัพ<br /> โช้คอัพมีอยู่ 2 ระบบ<br /> 1.โช้คอัพระบบ “น้ำมัน”เป็นการปฏิบัติงานด้วยระบบไฮดรอลิค ตอนที่ดำเนินงานน้ำมันไฮดคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วด้านในลูกสูบ มีการควบคุมวาล์วอยู่ 3 ระดับ โดยทำงานของวาล์วจังหวะแรก BLEED จะมีผลต่อการขับขี่โดยเฉพาะในอัตราความเร็วต่ำ ส่วนวาล์วควบคุมน้ำมันระดับที่สอง BLOW OFF จะควบคุมสมรรถนะในการขับรถในอัตราความเร็วปกติ รวมทั้งวาล์วควบคุมน้ำมันระดับที่สาม ORIFICE วาล์วจะดำเนินงานในขณะแกนโช้คเคลื่อนขณะที่รถยนต์ใช้ความเร็วสูง<br /> 2.โช้คอัพระบบ “แก๊ส”<br /> โช้คอัพก๊าซแรงกดดันต่ำ (LOW-PRESSURE GAS SHOCK ABSORBER) โช้คอัพแก๊สแบบงี้ จะมีลักษณะเหมือนโช้คอัพไฮดรอคอยลิคทั่วๆไป แต่มีแก๊สไนโตรเจน (NITROGEN GAS) ใส่เข้าไปส่วนบนของห้องสุขามันสำรองแรงกดดันประมาณ 142 - 213 ปอนด์/ ตารางนิ้ว<br /> โช้คอัพแก๊สแรงกดดันสูง (HI-PRESSURE GAS SHOCK ABSORBER) มีลักษณะต่างจากโช้คอัพแรงกดดันต่ำเป็น ส่วนประกอบข้างในตัวของโช้คอัพจะมีน้ำมันเพียงแค่ห้องเดียวไม่มีห้องน้ำมันสำรอง ด้านในกระบอกสูบจะใส่น้ำมันไฮดรอคอยลิคไว้ข้างบน hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา รวมทั้งจะอัดก๊าซไนโตรเจนไว้ข้างล่าง ประมาณ 284-427 ปอนด์/ ตารางนิ้ว<br />โช๊คอัพ นับเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของรถยนต์ ด้วยเหตุว่าจะช่วยรองรับ ซึมซับแรงกระแทก แล้วก็ช่วยลดแรงสั่นของรถยนต์ จากการขับขี่ในทุกภาวะถนนหนทาง วันนี้พวกเราจึงนำเนื้อหา แล้วก็ชนิดของ โช้คอัพ มาให้ชมกันให้ละเอียด<br />โช๊คอัพระบบน้ำมัน จะดำเนินงานด้วยระบบไฮดรอคอยลิค ซึ่งช่วงเวลาที่โช๊คอัพดำเนินการ น้ำมันไฮดคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ก็เลยทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นข้างในน้ำมันไฮดรอลิค แม้กระนั้นถ้าฟองอากาศเกิดแตกขึ้น จะมีผลให้โช้คอัพเกิดการ hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ขาดช่วงการทำงานในช่วงสั้นๆซึ่งเป็นเหตุให้รถยนต์เสียอาการได้ในเขตความเร็วสูง

Latest revision as of 13:06, 6 March 2021

hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา แล้วเพราะเหตุใดต้องใช้สปริงแข็ง?การใช้สปริงที่มีค่า k มากๆนั้น มีผลโดยตรงต่ https://www.folkd.com/submit/www.repowerthailand.com// ุม รวมถึงการตอบสนองของตัวรถ และข้อดีที่ท่านผู้อ่านจะได้อ่านตั้งแต่นี้ต่อไป คือเหตุผลที่ว่า...ทำไมรถแข่งจำพวกเซอร์กิต ก็เลยเซ็ทอัพสปริงให้มีค่า k สูงๆ
1. ลดอาการโคลงเคลงตัวของรถ (Reduce Body Roll)ในจังหวะเข้าโค้ง เป็นช่วงที่ตัวรถมีการถ่ายเทน้ำหนักโค้ง (Weight Transfer) ไปที่ ‘ยางคู่นอก’ ซึ่งถ้าหากว่ายางคู่นอก ได้รับภาระหน้าที่มากเกินไป ก็จะไม่สามารถสร้างแรงยึดเกาะได้ (มีการสลิป) รวมทั้งทำให้รถเสียการควบคุมถ้าเกิดท่านคนอ่านท่านใดที่ชอบ hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา มองรถแข่ง คงเคยได้เห็นจังหวะรถแข่งเหล่านี้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ในจังหวะเข้าโค้งนั้น บอดี้ของรถแข่งจะมีการโยกน้อยมาก (Body Roll น้อยมากๆ) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k สูงๆทำให้ตัวรถมีลักษณะอาการโคลงลดลง ซึ่งจะช่วยลดจำนวนการถ่ายเทน้ำหนักระหว่างเข้า ทำให้ยางอีกทั้ง 4 เส้นได้รับภาระหน้าที่ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถสร้างแรงยึดเกาะในขณะเข้าโค้งได้เพิ่มขึ้น
2. ทำให้รถยนต์เตี้ยลง = ลดตำแหน่งจุดศูนย์กลางของความถ่วงของตัวรถยนต์ (Lower Ride Height)เมื่อเราต้องการทำให้รถยนต์เตี้ยลงแล้ว เราจะเป็นที่จะจำต้องใส่สปริงที่มีความแข็งที่เพิ่มขึ้น (ค่า k สูงมากขึ้น) เนื่องจากว่าถ้าว่าเราใส่สปริงที่มีค่า k น้อยๆซึ่งมีระยะยุบที่มากกว่า จะมีผลให้ล้อแล้วก็ยางมีระยะเขยื้อนที่เพิ่มขึ้น จวบจนกระทั่งสามารถ ‘กระเด้ง’ ขึ้นมาขูดซุ้มล้อ หรือในเรื่องที่แย่ที่สุดก็คือว่า สปริงที่มีค่า k น้อยมากๆกระทั่งไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวรถยนต์ได้ มีโอกาสทำให้ตัวรถลงไปชนกับพื้นแทร็คได้ในจังหวะกระโดดไต่เอเป็กซ์ในสนามสำหรับเพื่อการแข่งขันในจังหวะบั๊มพ์ – สปริงจำเป็นต้องแข็งพอเพียงที่จะไม่ทำให้ตัวรถยนต์ยุบลงไปกระทั่ง hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ชนกับพื้นแทร็คคำถามต่อมาก็คือว่า...รถยนต์เตี้ยลงแล้ว...มันดียังไง?โดยธรรมดาแล้ว สำหรับรถซุปเปอร์คาร์และรถแข่งนั้น จะถูกวางแบบมาให้เตี้ยที่สุดเท่าที่จะเตี้ยได้ โดยมีจุดหมายเพื่อทำให้จุดศูนย์กลางของความถ่วง (จุด C.G.) อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเองครับผม เมื่อจุดศูนย์กลางของความถ่วงต่ำแล้ว จะนำมาซึ่งการทำให้การตอบสนองของตอนล่างถูกต้องขึ้น ได้ผลสำเร็จให้มีสมรรถนะการควบคุมดีขึ้นนั่นเอง
3. เพื่อรักษาแอโรไดนามิคส์สำหรับสุดยอดรถแข่งอย่าง F1 รวมถึงรถแข่งจำพวก GT นอกเหนือจากที่จะสามารถสร้าง ‘Mechanical Grip’ (แมคคานิคคอล) ได้อย่างมหาศาลแล้ว รถแข่งพวกนี้ จำเป็นต้องอาศัย ‘Aero Grip’ (แอโร-กริป) เพื่อสร้างความเป็นต่อเชิงอากาศพลศาสตร์สูงที่สุดแล้วก็เพื่อที่จะสร้าง ‘แอโร-กริป’ ให้ได้มากที่สุด รถแข่งเหล่านี้ จะถูกออกแบบมาที่ความสูงใด-ความสูงหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่า hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ถ้าหากตัวรถขยับลดลงเพียง 1 เซนติเมตร จากความสูงที่ได้วางแบบและก็คำนวณไว้ จะทำให้อากาศพลศาสตร์เกิดความระส่ำระสายทันทีทันใด และก็เปลี่ยนเป็นผลกระทบในด้านที่เสียหายกับตัวรถยนต์โดยทันที ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการให้ความหมายสูงของตัวรถ รถแข่งเหล่านี้ จึงได้เซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k ที่แข็งมากๆเพื่อมีระยะยุบต่ำที่สุด เท่าที่จะน้อยได้นั่นเองครับผม
ผลสรุปสำหรับรถยนต์นั่งส่วนตัวโดยธรรมดา ที่จำต้องวิ่งใช้งานบนถนนธรรมดาแล้ว จะมีการเซ็ทอัพสปริงที่มีค่า k ที่ไม่สูงมากมาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ ทั้งยังช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการความสบายสำหรับในการขับขี่ (รถยนต์บ้าน ช่วงล่างไม่กระด้าง ไม่กระดอน-กระเด้ง)แล้วก็แม้ว่า สปริงที่มีค่า k น้อย จะสามารถสร้าง ‘Mechanical Grip’ ได้มากกว่า แต่สำหรับรถแข่งชนิดเซอร์กิตนั้น เลือกที่จะเซ็ทอัพสปริงแบบแข็งๆเพื่อจะเพิ่มความสามารถการควบคุม และการตอบสนองของตัว ตลอดจนสร้างความได้เปรียบในเชิงอากาศพลศาสตร์สปริงแบบ DUAL RATE (มีค่า k สองค่าในขดเดียว)สามารถให้ได้ทั้งความนิ่มสบายและก็สมรรถนะการขับขี่สำหรับบทเรื่อง รากฐานการเซ็ทอัพตอนล่าง (ในระหว่างที่ 4) ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับวิชาความรู้ไม่มากก็น้อย และท่านคนอ่านสามารถติดตามบทความต่อๆไป ได้โดยตรงที่ แฟนเพจ Joh’s Autolife ได้เลยครับ
“โช้คอัพ” เป็นเครื่องใช้ไม้สอยสำคัญที่ช่วยรองรับแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือนของรถ รอถ่วงการเคลื่อนที่ขึ้นลงของช่วงล่าง-ตัวถัง ช่วยการทรงตัวของรถยนต์ แล้วก็ดูดซับการกระตุกของสปริงทำให้การรถยนต์กระเด้ง ขึ้น-ลง ของรถยนต์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ลองมามองกันว่าโช้คอัพที่คุณใช้เป็นแบบไหน และอาการรถยนต์ยังไงถึงจำต้องเปลี่ยนโช้คอัพ
โช้คอัพมีอยู่ 2 ระบบ
1.โช้คอัพระบบ “น้ำมัน”เป็นการปฏิบัติงานด้วยระบบไฮดรอลิค ตอนที่ดำเนินงานน้ำมันไฮดคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วด้านในลูกสูบ มีการควบคุมวาล์วอยู่ 3 ระดับ โดยทำงานของวาล์วจังหวะแรก BLEED จะมีผลต่อการขับขี่โดยเฉพาะในอัตราความเร็วต่ำ ส่วนวาล์วควบคุมน้ำมันระดับที่สอง BLOW OFF จะควบคุมสมรรถนะในการขับรถในอัตราความเร็วปกติ รวมทั้งวาล์วควบคุมน้ำมันระดับที่สาม ORIFICE วาล์วจะดำเนินงานในขณะแกนโช้คเคลื่อนขณะที่รถยนต์ใช้ความเร็วสูง
2.โช้คอัพระบบ “แก๊ส”
โช้คอัพก๊าซแรงกดดันต่ำ (LOW-PRESSURE GAS SHOCK ABSORBER) โช้คอัพแก๊สแบบงี้ จะมีลักษณะเหมือนโช้คอัพไฮดรอคอยลิคทั่วๆไป แต่มีแก๊สไนโตรเจน (NITROGEN GAS) ใส่เข้าไปส่วนบนของห้องสุขามันสำรองแรงกดดันประมาณ 142 - 213 ปอนด์/ ตารางนิ้ว
โช้คอัพแก๊สแรงกดดันสูง (HI-PRESSURE GAS SHOCK ABSORBER) มีลักษณะต่างจากโช้คอัพแรงกดดันต่ำเป็น ส่วนประกอบข้างในตัวของโช้คอัพจะมีน้ำมันเพียงแค่ห้องเดียวไม่มีห้องน้ำมันสำรอง ด้านในกระบอกสูบจะใส่น้ำมันไฮดรอคอยลิคไว้ข้างบน hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา รวมทั้งจะอัดก๊าซไนโตรเจนไว้ข้างล่าง ประมาณ 284-427 ปอนด์/ ตารางนิ้ว
โช๊คอัพ นับเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของรถยนต์ ด้วยเหตุว่าจะช่วยรองรับ ซึมซับแรงกระแทก แล้วก็ช่วยลดแรงสั่นของรถยนต์ จากการขับขี่ในทุกภาวะถนนหนทาง วันนี้พวกเราจึงนำเนื้อหา แล้วก็ชนิดของ โช้คอัพ มาให้ชมกันให้ละเอียด
โช๊คอัพระบบน้ำมัน จะดำเนินงานด้วยระบบไฮดรอคอยลิค ซึ่งช่วงเวลาที่โช๊คอัพดำเนินการ น้ำมันไฮดคอยลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ก็เลยทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นข้างในน้ำมันไฮดรอลิค แม้กระนั้นถ้าฟองอากาศเกิดแตกขึ้น จะมีผลให้โช้คอัพเกิดการ hdrive b spec profender monotube 2.0 ดีไหม profender ราคา ขาดช่วงการทำงานในช่วงสั้นๆซึ่งเป็นเหตุให้รถยนต์เสียอาการได้ในเขตความเร็วสูง